Xenthas E. Nyrrelixar

Lupustine

Info


Created
1 year, 1 month ago
Creator
Lupustine
Favorites
0

Profile


Xenthas Ezyrir Nyrrelixar

Vampire | Male | 20 years old | 24 Nov

Eye Color: Blue Sapphire to Pale Blue with Redish Pink Pupil. ♦♦♦♦♦♦♦♦♦

Hair Color: Night Sky Navy Dark Blue with a few white highlights. ♦♦♦♦♦♦

Present State ||| Teenage boy with young face. | 173 cm | 61 kg

When grow up ||| Fully grow male. | 189 cm | 76 kg.]

CV. https://youtu.be/Ry6LtIDGgvA


Thai below

อุปนิสัย

  • ดูดุ ดูสุขุม เย็นชา ปลีกวิเวก เก็บตัว *ถ้าไม่เปิดปากพูด*
  • เวลาเปิดปากพูดแล้วมักจะโดนโกรธ เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
  • ไม่ได้ชอบอยู่คนเดียว แค่ไม่อยากเห็นเธอเสียน้ำตา
  • มีอารมณ์ขันสูง แต่อารมณ์ขันไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านคนเลยไม่เก็ตด้วย
  • พยายามจะอ่อนโยนกับคนอื่น แต่ทำไมคนอื่นร้องไห้ งง
  • เวลายิ้มแล้วดูไม่น่าไว้ใจ แต่จริงๆ ไม่ได้คิดอะไร ใบหน้านี้พ่อแม่ให้มา
  • เราน่ารักอ่อนโยนมาก เชื่อเราสิ
  • หัวสมองแรนด้อม ชอบผุดไอเดียแปลกๆ ออกมา เห็นภายนอกนิ่งๆ แต่ในหัวค่อนข้างไร้สาระเอาเรื่อง
ประวัติ

เป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูลแวมไพร์นีร์เรอลิคซาร์ที่มีถิ่นฐานอยู่ในแดนใต้ เป็นตระกูลที่มีลูกยาก มักมีทายาทแค่เพียงหนึ่งหรือสองคนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ญาติที่ยังรวมตัวและติดต่อกันอยู่มีจำนวนน้อยมาก และสมาชิกตระกูลส่วนใหญ่จะร่วมกันทำธุรกิจประจำตระกูลซึ่งเป็นธุรกิจผลิตเครื่องประดับเงินและทอง รวมถึงการแปรรูปอัญมนีธรรมดาและหินเวทให้กลายเป็นเครื่องประดับราคาสูงส่งออกขายไปยังแดนต่างๆ

ตระกูลนีร์เรอลิคซาร์ขึ้นชื่อเรื่องพรสวรรค์ในงานเครื่องประดับเป็นอย่างมาก มีทั้งความประณีตสวยงาม รวมไปถึงคุณภาพวัตถุดิบเองก็ชั้นเลิศ พรสวรรค์นี้เป็นความสามารถที่ถูกฝึกฝนส่งต่อกันภายในตระกูล และมีเพียงคนสำคัญและคนที่มีทุนทรัพย์สูงเท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองผลงานที่คนในตระกูลทำได้ ส่วนลูกค้าทั่วไปนั้นจะสามารถครอบครองผลงานของช่างฝีมือระดับต่ำลงมาซึ่งตระกูลนีร์เนอลิคซาร์คอยเลี้ยงดูและกำกับดูแลคุณภาพได้แทน

เซนธัสซึ่งเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเองก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในช่างฝึกหัดที่มีฝีมือเช่นกัน แต่ด้วยนิสัยที่เฉพาะตัว ทำให้เจ้าตัวค่อนข้างพัฒนางานฝีมือได้ช้ากว่าคนอื่นๆ ในตระกูล แม้ว่าจริงๆ แล้วจะเป็นคนหัวดีก็ตาม

สิ่งที่ชอบ: บีฟเวลลิงตัน, คาเวียร์ ชีส และไวน์ (ไม่อิ่มกายแต่อิ่มใจ), อ้อมกอดอุ่น, ของที่เป็นประกาย(แต่แสงแดดเหมือนจะเป็นประกายมากเกินไปหน่อย ไม่อ่อนโยนเลย)

สิ่งที่ไม่ชอบ: กางเกงในใช้แล้ว(มันเหม็น)

งานอดิเรก: ปั้นมนุษย์หิมะ, วาดรูป(วาดสวยมากจนพ่อแม่ขอให้หยุดวาดเดี๋ยวตระกูลดัง)

ความสามารถพิเศษ: สื่อสารกับสัตว์อื่นๆ นอกจากค้างคาวได้(คิดไปเอง), อ่านเขียนได้หลายภาษา


ธาตุพื้นฐาน: น้ำแข็ง

ธาตุประจำเผ่า: มืด

วิชาประจำตระกูล:

เป็นเวทมนตร์ที่ส่งผ่านสายเลือดเท่านั้น

หากสามารถทำให้ใครสักคนดื่มเลือดของพวกเขาได้ พวกเขาจะสามารถควบคุมให้คนที่ได้ดื่มเลือดทำอะไรก็ได้ที่ไม่ถึงแก่ชีวิตเป็นเวลา 1 วินาที ต่อเลือด 1 ซีซี (1ml)

โดยรวมแล้วไม่ใช่วิชาที่มีประโยชน์นัก เพราะคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ใครสักคนยอมดื่มเลือดของพวกเขา และการจะควบคุมให้ทำอะไรที่ซับซ้อนก็จำเป็นต้องใช้เลือดจำนวนมากของตัวเอง อาจจะเป็นพวกเขาเองที่สลบไปเพราะเสียเลือด (ปริมาณเลือดที่ควบคุมได้นานถึง 16 นาที = เสียเลือดมากพอจะทำให้ช็อคได้, เดิมทีแค่ 10 นาทีก็สามารถทำให้เวียนหัวจนสลบไปได้แล้ว เทียบปริมาณประมาณน้ำเปล่ามาตรฐานขวด 600 มล. ซึ่งยากมากที่จะทำให้ใครดื่มเลือดปริมาณขนาดนั้นเข้าไปในทีเดียวได้โดยไม่ยินยอม)

*สามารถขัดจังหวะและล้างมนต์สะกดได้ด้วยการราดน้ำร้อนต้มดอกเบญจมาศใส่คนถูกสะกดจนเปียก* (ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นว่าทำไม แต่เหมือนว่าต้นตระกูลจะชอบชาดอกเบญมาศ)

สามารถนับได้ว่าเป็นเพียงวิชาที่ใช้ป้องกันตัวเท่านั้น เหมือนหนอนผีเสื้อที่สะสมพิษไว้ในร่างกายไม่ให้ถูกกิน

อย่างไรก็ตาม มีบันทึกเก่าและข่าวลือในหมู่คนรับใช้ของตระกูล ว่ากันว่าเลือดของพวกเขาหอมหวานมาก แม้จะไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่ชอบเลือดสดๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะอยากลอง มีเพียงเผ่าพันธุ์เอลฟ์และเจ้าของเลือดเองเท่านั้นที่รู้สึกว่ามันไม่น่าอร่อยเอาซะเลย

สื่อเวท: ต่างหู

อาวุธ: ช็อตกัน winchester 1887 (Ref Click Here)

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวทที่ใช้:

1.ควบรวมเวทน้ำแข็งเข้ากับปืนช็อตกัน ทำให้ร่างกายเป้าหมายเกิดอาการชาชั่วขณะหนึ่ง(ประมาณ 5 วิ) แม้อานุภาพของการแช่แข็งจะไม่สูงนัก แต่ด้วยความไวในการรีโหลดเวทใหม่(รวมทุกขั้นตอนแล้วประมาณ 8 วิ, เป็นประเภทที่ต้องรีโหลดใหม่ทุกนัด) ทำให้หากสามารถหาจังหวะในการยิงอย่างต่อเนื่องได้ก็จะสามารถทำให้เป้าหมายเกิดการชะงักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และการถูกยิงอัดซ้ำๆ มันเป็นอะไรที่จุกและเจ็บมากๆ เลยล่ะ

เพราะเป็นการใช้เวทที่ตัวเวทเองไม่ได้มีอานุภาพเท่าไรนัก ทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายผู้ใช้น้อย (สามารถยิงได้สูงสุดถึง 50 นัดต่อหนึ่งการต่อสู้ แต่เมื่อยิงถึงนัดที่ 30 การเคลื่อนไหวจะเริ่มช้าลงจากความเย็นสะสม และช้าลงอย่างเห็นได้ชัดทุกๆ 5 นัด และเมื่อยิงเกินนัดที่ 50 ร่างกายจะเริ่มมีน้ำแข็งเกาะขึ้น หากยังฝืนยิงต่อไป ผู้ใช้จะเป็นฝ่ายติดสถานะชาจนขยับไม่ได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมงแทน) แม้จะฟังดูข้อเสียน้อย แต่จริงๆ แล้วเป็นสกิลที่ต้องพึ่งพาความชำนาญในการยิงของผู้ใช้อย่างมาก และระยะหวังผลของช็อตกันไม่ค่อยไกล ทำให้ต้องเข้าไปยิงแบบประจันหน้า หากยิงไม่โดน หรือเกินจำนวนที่ร่างกายรับไหว ก็จะไร้ประโยชน์ขึ้นมาทันที (หากยิงต่อเนื่องทันทีที่รีโหลดกระสุนเสร็จ กระสุน 30 นัด แรกจะถูกยิงหมดภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที เพราะงั้นในการต่อสู้ที่ยืดเยื้อจะค่อนข้างเสียเปรียบมาก และจำเป็นต้องคิดให้ถี่ถ้วนและตัดสินใจเด็ดขาด)

2.เวทแช่แข็งโดยตรง เป็นการใช้เวทน้ำแข็งแช่แข็งเป้าหมายตรงๆ ตามวัตถุประสงค์ไม่มีการพลิกแพลงอะไรทั้งนั้น อานุภาพการแช่แข็งจะรุนแรงกว่าการควบรวมลงในกระสุนปืนมากๆ และยังสามารถขยายขอบเขตความรุนแรงได้เรื่อยๆ จนกว่าร่างกายผู้ใช้จะรับไม่ไหว และผลข้างเคียงเองก็ยังรุนแรงกว่าเวทควบรวมกระสุนด้วย การแช่แข็งเป้าหมายขนาดวัวหนึ่งตัวให้หยุดนิ่งถึงนาทีนั้นมากพอจะทำให้ความเย็นสะสมในร่างกายพุ่งสูงจนเคลื่อนไหวลำบาก และอาจจะใช้เวทเดียวกันนี้ได้อีกไม่เกิน 4 ครั้ง เพราะงั้นเจ้าตัวเลยจะไม่ค่อยใช้เวทนี้นักเพราะขาดความยืดหยุ่นเกินไป และยังขาดสุนทรียภาพในการต่อสู้อีกด้วย

3.เวทความมืด คล้ายกันกับเวทแช่แข็งคือเป็นเวทที่ทำหน้าที่ตรงตัวตามความสามารถหลักของมันคือการกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง

3.1 ใช้ความมืดกลืนกินสิ่งไม่มีชีวิตให้หายไป - หากกลืนกินมากเกินไปจะทำให้ผู้ใช้เกิดอาการประสาทหลอนและเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น ยิ่งกลืนกินมากก็ยิ่งหลอนมาก ยิ่งใช้ในที่ที่มีความมืดจำนวนมากก็ยิ่งกลืนกินได้มากขึ้นด้วย และผลข้างเคียงจะเกิดช้าลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงของผลข้างเคียงจะลดน้อยลง

3.2 ช่วงชิงการมองเห็นของเป้าหมายเป็นช่วงเวลาสั้นๆ 3 วินาที - มีลักษณะคล้ายกับเงามืดบังตา ทำให้เหมือนถูกปิดตาไปช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้มีผลเสียอะไรนัก สามารถแก้ทางได้ด้วยเวทแสงที่แข็งแกร่งกว่า แต่จำเป็นต้องมีการตอบสนองที่ทันท่วงทีด้วย